การคำนวณ ROI ของการเปลี่ยนมาใช้โคมไฮเบย์ LED

การคำนวณ ROI ของการเปลี่ยนมาใช้โคมไฮเบย์ LED

ในอุตสาหกรรมและโรงงาน โคมไฮเบย์ (High Bay Lighting) เป็นองค์ประกอบสำคัญของระบบแสงสว่าง เนื่องจากใช้สำหรับพื้นที่ที่มีเพดานสูง เช่น โกดังสินค้า โรงงานผลิต และศูนย์กระจายสินค้า อย่างไรก็ตาม หลอดไฟแบบดั้งเดิม เช่น หลอดเมทัลฮาไลด์ (Metal Halide) หรือหลอดฟลูออเรสเซนต์ กินพลังงานมากและมีอายุการใช้งานสั้น ด้วยเหตุนี้ หลายองค์กรจึงหันมาใช้ โคมไฮเบย์ LED ซึ่งช่วยประหยัดพลังงาน ลดต้นทุน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

บทความนี้จะอธิบายวิธี คำนวณ ROI (Return on Investment) ของการเปลี่ยนมาใช้โคมไฮเบย์ LED เพื่อช่วยให้เจ้าของธุรกิจและผู้จัดการโรงงานสามารถตัดสินใจลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

1. ROI คืออะไร และทำไมถึงสำคัญ?

1.1 ความหมายของ ROI

ROI หรือ ผลตอบแทนจากการลงทุน (Return on Investment) เป็นตัวชี้วัดที่ใช้ประเมินความคุ้มค่าของการลงทุนโดยคำนวณจาก กำไรสุทธิที่ได้รับจากการลงทุน เทียบกับ ต้นทุนที่ใช้ลงทุน

1.2 ความสำคัญของการคำนวณ ROI ก่อนเปลี่ยนมาใช้โคมไฮเบย์ LED

  • ช่วยให้เข้าใจว่าการลงทุนจะคืนทุนภายในระยะเวลาเท่าใด
  • เปรียบเทียบความคุ้มค่ากับตัวเลือกอื่น ๆ
  • ช่วยให้ผู้บริหารสามารถตัดสินใจได้ดีขึ้น

2. ต้นทุนและผลประโยชน์ของการเปลี่ยนมาใช้โคมไฮเบย์ LED

2.1 ต้นทุนการลงทุน

  1. ต้นทุนไฮเบย์ LED – ราคาต่อโคมโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 2,000 – 5,000 บาท ขึ้นอยู่กับกำลังวัตต์และคุณสมบัติพิเศษ
  2. ต้นทุนติดตั้ง – หากเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด อาจมีค่าแรงติดตั้งเฉลี่ย 300 – 1,000 บาทต่อโคม
  3. ต้นทุนบำรุงรักษา – โคมไฮเบย์ LED มีอายุการใช้งานยาวนาน ลดค่าใช้จ่ายด้านบำรุงรักษาเมื่อเทียบกับหลอดเก่า

2.2 ผลประโยชน์จากการเปลี่ยนมาใช้โคมไฮเบย์ LED

  1. ประหยัดค่าไฟฟ้า – LED ใช้พลังงานน้อยกว่าหลอดเก่าถึง 50-80%
  2. ลดต้นทุนการบำรุงรักษา – อายุการใช้งาน 50,000 ชั่วโมง เทียบกับ 10,000-20,000 ชั่วโมงของหลอดเดิม
  3. คุณภาพแสงดีขึ้น – ให้แสงที่สว่างและเสถียรกว่า ลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

3. วิธีคำนวณ ROI จากการเปลี่ยนมาใช้โคมไฮเบย์ LED

3.1 ตัวอย่างกรณีศึกษา

โรงงานแห่งหนึ่งมี โคมไฮเบย์เมทัลฮาไลด์ 250W จำนวน 100 โคม และต้องการเปลี่ยนเป็น โคมไฮเบย์ LED 100W

1. คำนวณต้นทุน

  • ราคาซื้อโคม LED: 3,000 บาท x 100 โคม = 300,000 บาท
  • ค่าติดตั้ง: 500 บาท x 100 โคม = 50,000 บาท
  • ต้นทุนรวม = 350,000 บาท

2. คำนวณการประหยัดพลังงาน

  • พลังงานที่ใช้ก่อนเปลี่ยน = 250W × 100 โคม = 25,000W หรือ 25kW
  • พลังงานที่ใช้หลังเปลี่ยน = 100W × 100 โคม = 10,000W หรือ 10kW
  • การลดใช้พลังงาน = 25kW – 10kW = 15kW
  • ค่าไฟต่อหน่วย = 4 บาท/kWh (โดยเฉลี่ย)
  • ชั่วโมงการใช้งานต่อปี = 12 ชั่วโมง/วัน × 365 วัน = 4,380 ชั่วโมง
  • เงินที่ประหยัดได้ต่อปี = 15kW × 4,380 ชั่วโมง × 4 บาท = 263,400 บาท/ปี

3. คำนวณ ROI

  • ROI = (เงินที่ประหยัดได้ต่อปี – ต้นทุนลงทุน) / ต้นทุนลงทุน × 100
  • ROI = (263,400 – 350,000) / 350,000 × 100
  • ROI = -24.7% (ปีที่ 1 ขาดทุน แต่จะเริ่มคืนทุนในปีที่ 2)
  • คืนทุนในระยะเวลา 33 ปี หรือประมาณ 16 เดือน

4. ปัจจัยที่ส่งผลต่อ ROI ของโคมไฮเบย์ LED

  1. กำลังวัตต์ของโคมไฟเดิมและใหม่ – ยิ่งต่างกันมาก ยิ่งประหยัดพลังงานได้สูง
  2. ชั่วโมงการใช้งานต่อวัน – โรงงานที่เปิด 24 ชั่วโมงจะคืนทุนได้เร็วกว่า
  3. ค่าไฟต่อหน่วยของพื้นที่นั้น ๆ – ค่าไฟที่แพงขึ้นทำให้ ROI สูงขึ้น
  4. ต้นทุนติดตั้งและบำรุงรักษา – หากใช้ระบบที่ถอดเปลี่ยนง่าย ค่าใช้จ่ายจะลดลง
  5. คุณสมบัติพิเศษของโคม LED – เช่น ระบบ Dimming หรือเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว สามารถช่วยลดการใช้พลังงานเพิ่มเติม

5. สรุป

การเปลี่ยนมาใช้โคมไฮเบย์ LED เป็นการลงทุนที่ช่วย ประหยัดค่าไฟ ลดค่าใช้จ่ายบำรุงรักษา และเพิ่มประสิทธิภาพแสงสว่าง แม้ว่าจะมีต้นทุนเริ่มต้นสูง แต่สามารถคืนทุนได้ภายใน 1-2 ปี และสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว โรงงานหรือธุรกิจที่ต้องการลดต้นทุนและปรับปรุงประสิทธิภาพ ควรพิจารณาการเปลี่ยนมาใช้ โคมไฮเบย์ LED เป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและยั่งยืน

 

RICHEST SUPPLY  ศูนย์รวมผลิตภัณฑ์แสงสว่าง แบรนด์โคมไฟ หลอดไฟคุณภาพ สนใจสอบถามข้อมูลสินค้าเพิ่มเติมที่
LINE Official Account: @richestsupply หรือ Facebook: https://www.facebook.com/enrichled